บริการจั๊มแบต เปลี่ยนแบต พ่วงแบตเตอร์รี่รถยนต์นอกสถานที่ 0931569241

ปัญหารถ ยางแตก หรือยางระเบิด เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่คนมีรถยนต์ไม่ควรมองข้าม 

อุบัติเหตุที่เกิดจากยางรถยนต์ระเบิดนั้นค่อนข้างอันตราย หากขาดความรู้ความเข้าใจอาจทำให้อันตรายถึงชีวิตได้
และเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนนที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

วันนี้ทางร้านเพชรพลอยยางถูกจึงมีวิธีเตรียมความพร้อมมาแชร์ให้ทุกๆท่านกันครับ

รถ ยางแตก ต้องทำยังไง? คำนี้หลายๆท่านคงสงสัยและพยายามหาคำตอบ แต่ก่อนที่จะแก้ไข เราควรต้องรู้สาเหตุที่ทำให้รถยนต์ยางแตก กันก่อนดีกว่า ซึ่งสาเหตุหลักที่ทำให้ยางรถยนต์เกิดระเบิดขึ้นขณะกำลังใช้งานนั้นมีด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น

1. ยางที่ใช้หมดสภาพ ยางหมดอายุการใช้งาน บวม มีรอยปริแตก ฉีกขาด เป็นต้น
2. บรรทุกของน้ำหนักเกินกำหนด
3. ขับรถโดยใช้ความเร็วเกินพิกัดยาง
4. สูบลมยางไม่ถูกต้อง เช่น เปลี่ยนยางรถยนต์ใหม่แต่ยังใช้จุ๊บเติมลมอันเก่า
5. แรงเสียดทาน หรือหลุมบ่อที่อยู่บนท้องถนน
6. ลมยางล้อมีแรงดันอ่อน เมื่อยางอ่อนรูปร่างของยางจะผิดเพี้ยนไป ไม่กลมอย่างที่ควรจะเป็น
7. เลือกใช้ยางรถยนต์ไม่ถูกขนาด เช่น นำยางรถเก๋งมาใส่รถปิคอัพ เป็นต้น

ก่อนที่ยางรถยนต์จะระเบิดนั้น มันอาจส่งสัญญาณเตือนให้คุณรู้ก่อนก็เป็นได้ ลองสังเกตดูว่า ขณะขับรถอยู่นั้น รถเกิดอาการสั่นสะเทือน พวกมาลัยมีอาการสั่นผิดปกติ บังคับรถยากขึ้นโดยเฉพาะขณะเลี้ยวรถ หรือขับเข้าโค้ง ทั้งๆ ที่รถไม่ได้มีปัญหาเรื่องถ่วงล้อและศูนย์ล้อหน้าก็ปกติดี ไม่มีส่วนใดของรถที่ได้รับความเสียหาย หรือไม่ หากรถของคุณมีลักษณะดังกล่าว ให้ชะลอความเร็วแล้วหาที่ปลอดภัยจอดรถ เพื่อตรวจเช็คสภาพยางรถยนต์ทันที เพราะอาการเช่นนี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกว่า ยางรถของคุณเริ่มบวมและพร้อมที่จะระเบิดแล้วนั่นเอง

เมื่อเราเรียนรู้สาเหตุที่ยางแตกและสัญญาณเตือนก่อนยางระเบิดแล้ว เรามาเรียนรู้วิธีรับมือเมื่อยางรถยนต์เกิดระเบิดขึ้นมากันดีกว่า เริ่มจาก

1. ตั้งสติให้มั่น

เมื่อเกิดเสียงยางระเบิดดังขึ้น แน่นอนละว่าคุณต้องตกใจ เป็นใครก็ตกใจทั้งนั้นแหละ! แต่คุณต้องรีบเรียกสติตัวเองกลับมาให้เร็วที่สุด เพราะยิ่งรวบรวมสติของคุณได้มากเท่าไร โอกาสที่คุณจะ ปลอดภัย ก็มีมากเพิ่มขึ้นเท่านั้น  

2. จับพวงมาลัยให้มั่นทั้งสองมือ

เมื่อเกิดเหตุการณ์ยางระเบิดขึ้น อย่าตกใจจนหักพวงมาลัยกะทันหัน โดยมากแล้วยางระเบิดจะทำให้รถส่าย จะมากจะน้อยขึ้นอยู่กับแรงระเบิดและความเร็วของรถ เพราะฉะนั้นพยายามประคองรถเอาไว้ให้ได้นั่นละดีที่สุด

3. คุมทิศทางด้วยการผ่อนคันเร่งแล้วเลียเบรค

เมื่อควบคุมทิศทางของรถได้แล้ว ก็ค่อยๆ ผ่อนคันเร่งแล้วแตะเบรคเบาๆ เมื่อความเร็วลดลง เพื่อประคองรถให้เข้าไหล่ทางด้านซ้าย ถ้าอยู่เลนกลางหรือเลนขวา ให้เปิดไฟฉุกเฉินขอทางเข้าเลนซ้ายด้วยละ อย่าคิดแต่จะเข้าข้างทางอย่างเดียวแล้วพุ่งพรวดไปเลย เพราะนั่นอาจทำให้เกิด อุบัติเหตุ ซ้ำซ้อนหนักขึ้นไปอีกก็เป็ได้

4. ห้ามใช้เบรคมือ